ความรู้และประวัติโครงการก่อสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
บันทึกโดย ดร.เดชา หลวงพิทักษ์ชุมพล ผู้อำนวยการโครงการฯ
“ขอบใจ”
เมื่อลำแสงเลเซ่อร์รูปองค์พระปรากฏบนหน้าผา บรรดาทีมงานที่ห้อยเชือกรออยู่ 3 ระดับคือ
- ระดับบนสุด-บนยอดเขา(เหนือเศียรพระ)
- ระดับกลาง-บริเวณอก(พระอุระ)
- ระดับล่าง-หน้าตักติดฐานบัว
ต่างเคลื่อนตัวเข้าประจำตำแหน่งราวกับเดินบนพื้นราบซึ่งเมื่อมองจากพื้นดินด้านล่างขึ้นไปเห็นให้เป็นที่มหัศจรรย์นัก! ทีมงานนี้มีหน้าที่ระบายสี(ขาว)ตามลายเส้นแสงเลเซ่อร์และจะต้องมีการแก้ไขลายเส้นสีที่ระบายในตอนกลางวันโดยท่านอาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว-รองอธิบดีกรมศิลปากรผู้ออกแบบรูปพระฯ(และคณะ) ซึ่งได้รับมอบหมายจากสมเด็จพระบรมฯให้เป็นผู้รับผิดชอบความสวยงามขององค์พระแกะสลักเลยต้องรับบทหนักทั้ง 2 กะ
ค่ำคืนหนึ่งของการขึ้นรูปพระด้วยแสงเลเซ่อร์ใหม่ๆ สมเด็จพระบรมฯเสด็จมาตรวจงาน(ปกติหากเสด็จอย่างไม่เป็นทางการ จะทรงฉลององค์ด้วยชุดนักบินขับไล่F-16เสมอ เนื่องด้วยอยู่ในช่วงที่พระองค์ต้องทรงทำชั่วโมงบินด้วย)
“มือพระ(ข้างขวา)ยาวไป เหมือนพระกำลังเอื้อมมือหยิบของ” พระองค์ทรงตรัสบอกท่านอาจารย์กนกฯหลังจากพระองค์ทรงนั่งพิจารณารูปพระลำแสงสีเขียวบนหน้าผาหน้าสถานีเลเซ่อร์สักครู่
(ถ้าท่านย้อนกลับดูรูปพระลำแสงเลเซ่อร์จากตอนที่แล้ว ท่านสังเกตุที่มือขวาของพระดู จะเห็นว่ามือขวาได้หดสั้นลงตามพระราชประสงค์แล้วเพราะเดิมมือขวาจะยาวกว่านี้จนปลายนิ้วมือพระเลยไปตัดเส้นเข่าด้านล่าง)
โดยไม่ต้องมีการrelayกระแสรับสั่ง ผมรีบกระโดดเข้าไปในสถานีเลเซ่อร์ เพื่อให้ท่านดร.พงศ์พันธ์ฯได้ทราบถึงพระราชประสงค์
“จารย์ ก่อนจะหดมือพระ วานจารย์ช่วยแกว่งแขวน(พระ)โชว์พระบรมฯหน่อยนะ พระองค์จะได้ทราบว่าจะให้เราแก้ไขอะไรตรงไหนได้ทั้งนั้น”
“ขอบใจ” ผมสะดุ้งที่เห็นพระองค์ทรงยื่นพระพักตร์มาบอกที่หน้าต่างก่อนจะเสด็จกลับ
“ใครหรือคุณเดชา?” ดร.พงศ์พันธ์ฯ มัวแต่ก้มหน้าก้มตายุ่งอยู่กับคอมฯและสแกนเน่อร์
หากคราใดไม่เสด็จด้วยพระองค์เองก็จะให้ราชองครักษ์มาติดตามงานแทนพร้อมให้จดชื่อคณะทำงานที่ปฏิบัติในคืนนั้นๆไปถวายรายงานให้พระองค์ทรงทราบด้วย! ปกติราชองครักษ์ในสมเด็จพระบรมฯจะมี 3 ท่านผลัดกันทำหน้าที่ยี่สิบสี่ชั่วโมงผลัดกันพัก-เข้ากะกลางวัน-เข้ากะกลางคืน หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเช่นนี้ ที่ผมคุ้นหน้าคุณตาด้วยพบกันบ่อยๆก็คือท่านพล.อ.อารักษ์ โรจนุตะมะ และท่านพล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ที่สุภาพนอบน้อมมากและที่โดดเด่นเล่นเอาประหลาดใจก็คือท่าน”สมถะ”เอามากๆ ขนาดที่ว่าหลังจากท่านตรวจงานเสร็จกลางดึกก็จะพาท่านไปนอนโรงแรม(แอมบาสเดอร์ จอมเทียน) พอถึงโรงแรมปรากฎว่าท่านไม่ยอมลงจากรถ เพียงแต่บอกด้วยเสียงราบเรียบว่า “ส่งผมไปนอนที่วัดดีกว่าครับ”
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี องค์รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ ทรงเสด็จตรวจงานสนามเป็นระยะๆ และให้ความสนพระทัยเป็นอย่างมากกับเทคนิคการวาดรูปพระด้วยแสงเลเซ่อร์
“กล้องส่องทางไกล”ที่สมเด็จพระเทพฯใช้ทอดพระเนตรหน้าผาเขาชีจรรย์นี้เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากชิ้นหนึ่งของการก่อสร้างที่เดียวที่ท่านอาจารย์กนก บุญโพธิ์แก้ว(ขวา)ใช้ประจำทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อส่องแก้ลายเส้นขององค์พระให้ดูต่อเนื่องสวยงามหากเมื่อมองจากพื้นดินด้านล่างขึ้นไป โดยมีท่านดร.สุวิชญ์ รัศมิภูติ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายดำเนินการควบคุมและจัดสร้างฯ(กลาง)คอยถวายรายงานร่วมกับท่านพล.ร.ท.ประสิทธ์ ลัทธิธรรม เลขาคณะอนุกรรมการฯ(ซ้าย) หากท่านใดได้ลองยืนหรือนั่งเก้าอี้ทรงสูงส่องหน้าผาฯผ่านกล้องนี้ดูสักพักแม้ระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น ก็จะทราบทันทีเลยว่าภาระกิจของท่านอาจารย์กนกฯนี้ “หนัก”เอาการทีเดียว